เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิส่งเสริมอุดรธานี ได้เข้ามารับร่างคุณครูสุภาภรณ์ ที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมอดีตตำรวจคลั่ง จ.หนองบัวลำภู พร้อมลูกที่อยู่ครรภ์ 8 เดือน จากวัดราษฎร์สามัคคี เพื่อไปผ่าเอาเด็กออก ที่ นิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี เมื่อกู้ภัยได้ขึ้นไปนำร่างคุณครูสุภาภรณ์พร้อมลูกในครรภ์ 8 เดือน ลงจากศาลการเปรียญของวัดวัดราษฎร์สามัคคีโดยมีคุณเสกสรรค์ สามีของคุณครูสุภาภรณ์ ถือรูปภรรยาที่เสียชีวิต ส่วนข้างๆกัน คือคุณอาของครูสุภาภรณ์ เป็นคนถือรูปหลานที่ต้องเสียชีวิตไปพร้อมแม่ก่อนที่จะถึงกำหนดลืมตาดูโลกในอีกไม่ช้านี้
~
~
อาของคุณครูสุภาภรณ์ ได้บอกกับหลานของเธอก่อนขึ้นรถกู้ภัยว่า ครบกำหนดแล้ว เดี๋ยววันนี้พาไปทำคลอดนะ ขณะคุณแม่ของครูสุภาภรณ์ร่ำไห้บอกลูกสาวของเธอว่า ไปนะลูก เดินทางปลอดภัย ไปทำคลอดนะลูก คุณอาของครูสุภาภรณ์ เผยเล่าว่า นอกจากจะเป็นในเรื่องของความเชื่อแล้ว ทางครอบครัวยังอยากเห็นหน้าหลานอีกด้วย
~
~
พระครูอดิศัย กิจจานุวัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี เล่าถึงความเชื่อในกรณีการเสียชีวิตของครูสุภาภรณ์ ว่า หากมีการเสียชีวิตแบบนี้ชาวบ้านไม่อยากให้ แม่และลูกเผาด้วยกัน ส่วนตามหลัก พระพุทธศาสนาบอกว่า เป็นการตัดห่วงความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก
~
~
ต่อมา กู้ภัยจากมูลนิธิส่งเสริมอุดรธานี ได้นำร่างของคุณครูสุภาภรณ์ พร้อมลูกชายที่ผ่าคลอดแล้ว นำร่างของทั้ง 2 กลับมา เพื่อประกอบพิธีตามศาสนาที่วัดราษฎร์สามัคคี ทางครอบครัวของครูสุภาภรณ์ เผยว่า ตอนนี้ได้เห็นหน้าหลานแล้ว ซึ่งนำร่างเก็บไว้ที่เดียวกับแม่ และได้ตั้งชื่อน้องว่า น้องซีวิค คุณพ่อของน้องเป็นคนตั้งให้ที่มาของชื่อมาจากรถคันแรกของครอบครัว
~
~
โดย นายเสกสรรค์ ได้นำร่างภรรยาขึ้นรถมูลนิธิส่งเสริมธรรม จ.อุดรธานี มาที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อผ่าเอาทารกในครรภ์ออก เพราะอยากเห็นหน้าลูกชาย และเป็นความเชื่อของชาวบ้านว่าตายทั้งกลมจะเฮี้ยน
~
~
เมื่อเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้นำร่าง น.ส.สุภาพร ซึ่งตั้งครรภ์ 8 เดือน เข้าไปผ่าทารกออก โดยนายเสกสรรและญาตินั่งกอดรูปภรรยารออยู่หน้าห้อง โดยได้ชงนมใส่ขวดนม และเครื่องใช้สำหรับเด็กมาด้วย
~
~
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ออกมาแจ้งว่าผ่านำทารกเพศชายออกมาแล้ว และสวมชุดทีมฟุตบอลลิเวอร์พูล พร้อมหมวก ที่พ่อซื้อเตรียมมาให้ เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปลูกชายมาให้ดู ซึ่งนายเสกสรรค์ถึงกับยิ้มและเรียกลูกชายว่า น้องซีวิค
~
~
นายเสกสรรค์ เล่าว่า สาเหตุที่นำภรรยามาผ่าท้องนำลูกออกมา เพราะเป็นประเพณีและความเชื่อของชาวบ้าน หากเสียชีวิตขณะตั้งครรภ์ ก่อนจะฌาปนกิจต้องผ่าเอาลูกออกก่อน จึงอยากทำให้ถูกต้องและสมบูรณ์ ส่วนตนอยากเห็นหน้าลูก และอยากให้ลูกอยู่ในอ้อมกอดของแม่เป็นครั้งสุดท้าย อยากให้ลูกออกมาลืมตาดูโลก
~
~
ตอนนี้รู้สึกภูมิใจในตัวภรรยาและลูก เพราะในหลวงและพระราชินีท่านทรงพระกรุณาอย่างหาที่สุดมิได้ ให้ภรรยาได้เป็นแม่พิมพ์ของชาติ ได้ดูแลเด็ก เป็นบุญล้นพ้นของครอบครัว ลูกเป็นเพศชาย และตั้งชื่อไว้รอลูกว่า “น้องซีวิค” หลังจากที่เสียใจมาหลายวัน วันนี้ภูมิใจในตัวภรรยา เขาไปเป็นนางฟ้าแล้ว และดีใจที่ได้เห็นหน้าลูก
~
~
นายเสกสรรและญาตินั่งรอประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ได้นำร่าง น.ส.สุภาพร และน้องซีวิค ออกมาใส่โลงเดียวกัน เมื่อเห็นหน้าลูกและภรรยา นายเสกสรรถึงกับร้องไห้โฮ เรียกชื่อภรรยาและลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา
พร้อมกับสั่งภรรยาว่า “เจ้าของดูแลลูกให้ดีๆ เด้อ” ซึ่งญาติที่มาด้วยพูดกับร่างครูพรว่า วันนี้เป็นวันคลอดลูก เป็นวันเกิดของน้องซีวิค เมื่อเจ้าหน้าที่บรรจุร่างภรรยาและลูกเสร็จแล้ว และนำโลงขึ้นรถเพื่อกลับหนองบัวลำภู นายเสกสรรค์ได้จุดธูปเรียกภรรยาและลูกกลับบ้าน “พรกลับบ้านเราเด้อ ซีวิคกับบ้านเรานะลูก วันนี้เป็นวันที่พ่อดีใจมาก กลับบ้านเรานะ”
~
~